• Facebook Rocks

    Go to Blogger edit html and replace these slide 1 description with your own words. ...

  • Facebook vs Twitter

    Go to Blogger edit html and replace these slide 2 description with your own words. ...

  • Facebook Marketing

    Go to Blogger edit html and replace these slide 3 description with your own words. ...

  • Facebook and Google

    Go to Blogger edit html and replace these slide 4 description with your own words. ...

  • Facebook Tips

    Go to Blogger edit html and replace these slide 5 description with your own words. ...

เรื่องที่ยังไม่มีชื่อ # 14





วันนี้.. วันนั้น...วันไหน






จิตใจไหวเอนเช่นฝัน






วันนี้...วันไหน..ใยเหมือนกัน






ไหวหวั่นวาบหวิวลิ่วลอย










ฤารักจักนำช้ำชอก






ดุจตอกยอกย้ำความหงอย






ความคิดไขว่คว้า.. คราคอย






เศร้าสร้อยละห้อยหวน..ซวนเซ










พานพบผ่านผัน..พลันพราก






จำใจจรจาก..ห่างเห






ขวัญข้าแปรปรวนรวนเร






สุดคะเน..ความหวังพังครืน










คืนวันเวียนว่ายไร้ค่า






ใจชาฤาว่าด้านแล้ว






เวลาวิ่งไปไร้วี่แวว






เพียงแผ่วลมฝนบ่นพรำ










ผ่านคืนใดใดไม่รับรู้






รันทดอดสูชอกช้ำ






จมปลักบ่วงรักสุดระกำ






ล่วงถลำย้ำร่างกลางเปลวเพลิง










พายุอารมณ์ถมกระหน่ำ






เหยียบย่ำย้ำคิดจิตเหลิง






ถ้อยคำทำใจไหวกระเจิง






ใบหน้านองเจิ่ง..น้ำตา










อกเอย..อัดอั้นอึดอัด






ยามกระหวัดเรื่องหลัง..พลังล้า






อยากให้กายสลายวับไปกับตา






มิรับรู้สิ่งนานา..อาจสาใจ










วนเวียนวิ่งพล่านล้านความคิด






โรควิตกจริตเริ่มรุกไล้






โลมลูบลุกลามล้ำผิวกาย






ซุกซ่อนในหทัยกร่อนใจเรา










คร่ำครวญละหวนไห้






กายใจก็เหว่ว้า






หม่นหมองกระไรนา






น้ำตาสิร่วงริน










โบกโบยวะโหวยไหว






พระพายพัดใจสิ้น






ว่างเปล่านะชีวิน






ดับดิ้นสิยินดี










ทอดร่างกลางทุ่งหญ้า






เบิกตามองฟ้าสวย






ทอดถอนระทดระทวย






รินระรวย..ลมหายใจ










ผ่อนคลายให้หายเครียด






นอนเหยียดเบียดใบไม้






ที่อิงแอบแนบร่างกาย






เพียงมาดหมายให้คลายเหงา










ลมร้อนไหววูบวับ






พฤกษาขยับร่างเบาเบา






หยอกล้อลมยั่วเย้า






มิเคยเหงา..ฤาเจ้าเอย










เจ้าใยไม่เคยเหงา






และใยเจ้าช่างนิ่งเฉย






ความเหงาเงียบสุดเปรียบเปรย






ฤาเจ้ามิเอ่ย..ความในใจ










แม้นเจ้าไร้ซึ่งใครคู่






ลมยังอยู่..ใช่หรือไม่






ยามทักทาย..เจ้าแกว่งไกว






สะบัดใบไหวรับลม










เราเล่า..เหงายิ่งนัก






มีความรักมิสุขสม






ใยมิเป็นเช่นดั่งลม






ที่พัดพรมความชื่นใจ










เพียงพัดแต่ความเศร้า






พาความร้าวเข้ามาให้






วูบวาบแปลบปลาบใน






ดวงฤทัย..ดั่งไฟสุม...










อิจฉาเจ้ายิ่งนัก






เรามิพักจะร้อนรุ่ม






ใจดั่งมีเมฆหมอกคลุม






มันกลัดกลุ้มรุมฤดี










อยากเป็นดังเช่นเจ้า






แม้ว่างเปล่า..ก็สุขี






วันวันผ่านไปได้ด้วยดี






มิเคยมีเรื่องขุ่นข้องให้หมองใจ










ชีวิตคนเราก้อเท่านี้






สิ่งดีดีผ่านมาแล้วลาหาย






สลับกับความโศกและโชคร้าย






แต่อย่างไรสิ่งใดใดไม่จีรัง










แม้รู้สัจธรรมนำความคิด






ยังนำพาชีวิตพบผิดหวัง






เวรกรรมหรือไฉน..ใยประดัง






แต่หนทางร้างรก..มาปรกไว้










แหวกว่ายสายทางให้กว้างออก






ก้อพานพบความช้ำชอกที่กรอกให้






กระไรเลยมิเคยสบายใจ






ฤาชีวิตจะสิ้นไร้ทางสายดี










การดำรงคงอยู่ต้องสู้ต่อ






ยามทดท้อขอแรงใจให้ช่วยชี้






หนทางสว่างใสให้ก้าวที






เติมเต็มให้ใจดวงนี้..มีเรี่ยวแรง










ความปวดเจ็บที่เก็บไว้ในใจลึก






เร่งเร้าจิตสำนึกให้คึกแกร่ง






แต่บางขณะ ณ เวลา ที่ล้าแรง






ก้อเหี่ยวแห้งแล้งโรย..ใจโหยหา










ซึ่งความรักความอบอุ่นกระตุ้นจิต






ที่ชีวิตมิเคยได้จากใครหนา






จึ่งเว้าวอนอ้อนขอจากเพื่อนยา






อย่าเพิ่งเอือมระอา..นะเพื่อนเอย...










อารมณ์พาไปให้กลอนเศร้า






ความเงียบเหงาลากเราเข้ามุมอับ






แล้วล่ามด้วยความเหว่ว้าคณานับ






ความเดียวดายคืบคลานจับ..งับหัวใจ










ตกลงตัวเราเป็นอะไร






เป็นคนแพ้พ่ายหรือไม่เล่า






หรือเราเป็นเพียงคนขลาดเขลา






คนงี่เง่า หรือช่างเศร้าเคล้าอ่อนแอ










จะเป็นอะไร..สุดแต่ใจคิด






หากไม่ริดรอนสิทธิ์ใครแน่แท้






เราเป็น..เช่นเราเป็น..เช่นนี้แล






บางวันแย่..บางวันดี..นี่แหละเรา










วันแห่งอดีตกรีดแผลลึก






บาดความรู้สึกผนึกรอย






วันวารผ่านเนิ่นนานคล้อย






ยังฝังรอยลึกล้ำจำติดทรวง










ปัจจุบันยังรันทด






มีเรื่องราวร้าวสลดมากดถ่วง






กว่าจะก้าวข้ามผ่านฝันลวงลวง






ใจทั้งดวงโดนก้าวล่วงห้วงสำนึก










ยากกำหนดอนาคตให้สดศรี






เนื่องเพราะว่าวันนี้ยังตรองตรึก






ยังไม่ผ่านความรานร้าวเนาว์ห้วงนึก






ความเจ็บตรึงความรู้สึกลึกสุดใจ










เพื่อนเอย..






คงมิต้องเอื้อนเอ่ยเผยความนัย






เพื่อนคงรู้ว่าเราเป็นเช่นไร






และเหตุใดใยชอบชิงอิงแอบฝัน










เพื่อนเอย...






เราอยากเอ่ยเฉลยคำที่รำพัน






แต่จนใจเพราะในเบื้องลึกนั้น






ความฝันฝ้าฟางลางเลือนลับ










เพื่อนเอย...






หากให้เอ่ยกลัวนักเอย..ยากสดับ






ความหวังแม้เพียงฝันโดนกรีดยับ






มิอาจนับความหดหู่ที่จู่โจม










เพื่อนเอย...






เราอยากเลยละลิ่วไปใกล้ดวงโสม






เกี่ยวก้อยร้อยดาวสาวโพยม






จุดเป็นโคมประทีปผ่องนำส่องทาง










รำพึงถึงเย็นย่ำ






เพื่อทิ้งความระกำที่จำพบ






รำพึงเพื่อให้ใจได้จุดจบ






เพื่อเลือนลบสิ่งหลอกหลอนซ่อนในใจ










แม้รำพึงถึงรุ่งสาง






ทุกข์ในใจจะจืดจางก้อหาไม่






เพราะอย่างไรยังคงอยู่ข้างใน






ควักไม่ได้ไล่ไม่ถึง..ดื้อดึงจริง










หากรำพึงถึงปีหน้า






เราคงบ้าแกมดี..ผีคงสิง






อะไรจะจดจำกระหน่ำประวิง






ต้องช่วงชิงชิ่งหนีสักทีปะไร










เลิกรำพึงจึ่งจะดี..ฉะนี้หรือ






อะไรคือจุดหมาย..ที่วาดไว้






รำพึงแล้วลืมได้..รำพึงไป






หากยังเนาว์เช่นเดิมไซร้..ให้เลิกรำฯ










ความขัดแย้งแบ่งตัวตน






เป็นสองคนในหนึ่งคน..ที่บ่นพร่ำ






ฮ่าอ่าฮ่า...ฤาจะบ้าเพราะระกำ






พิษรักอำ..ทำเราต๊อง..ต้องมองตน










จุดหมายปลายทาง...คนช่างฝัน






ระหกระเหินเดินทาง






สะเปะสะปะอย่าง..คนไร้หวัง






พานพบหลากเรื่องราวเข้าประดัง






หล่อหลอมใจที่ใกล้พังให้ยังแข็ง










จุดหมายปลายทาง...คนช่างฝัน






อาจเลือนรางแต่ใจยังกล้าแกร่ง






ความอ่อนแอมิอาจส่อแสดง






ความอ่อนไหวแอบแฝงอยู่ภายใน










ท่ามกลางชีวิตและจิตมนุษย์






ที่ว่าลึกลับสุดกว่าสิ่งไหน






ฟันฝ่าเพื่อจะหาคนเข้าใจ






เหนื่อยล้าอยู่ร่ำไป..ไม่เคยพบ










เพราะเราเป็นเพียง..คนเคียงฝัน






มีหัวใจใฝ่รำพันมิรู้จบ






ยามร้าวเราน้ำตาพรำดั่งทำนบ






ทลายกลบนัยน์ตาให้ฝ้ามัว










มีชีวิตอิงแอบแนบกับฝัน






ดั่งชีวีนี้พลันมืดสลัว






มิอาจหลุดจากฝันอันไกลตัว






ยังเกลือกกลั้วภาพลวงตาที่มาเยือน










คงมิมีจุดหมายให้คนฝัน






เพราะวันวันฝันเพ้อละเมอเสมือน-






ว่าความจริงคือสิ่งที่เลอะเลือน






สมองเปื้อนภาพฝันจรรโลงไว้










วันนี้สมองเลื่อนลอย






ดั่งเดือนคล้อยไปตามวาร






มิมีสักแก่นสาร






ทรมานสังขารจริง










ปล่อยจิตคิดเรื่องใด






ก้อดูใจจะไม่นิ่ง






ดั่งใครมาช่วงชิง






สติสติง..วิ่งหนีไป...










ปลิดปลิวดั่งใบไม้






ล่องลอยไปไร้มวลสาร






อยากหยุดนิ่งให้เนิ่นนาน






แต่กลับพาลอยากล่องไป










ขัดแย้งดั่งแกล้งว่า






จิตหนึ่งหนา..ดั่งร่ำไห้






อีกจิตหนึ่ง..ระบำไหว






สลับไป..สลับมา










เออแหม..นะแม่คุณ






ช่างว้าวุ่นซะจริงหวา






สับสนหรือไรนา






หรือว่า...ใกล้บ้าแล้ว










นั่งเงียบเหงากับเงาตัว






เออ..น่ากลัวเหมือนกันนะ






สงบดี...แต่ทว่า






ใจละล้า..ละลังลอย










กลัวใจในตัวนี้






จะไม่ดี..จะเหงาหงอย






นั่งพิงฝาตาเหม่อลอย






เอ๊ะ..เราคอยในสิ่งใด










เหมือนมีเรื่องใดคิด






ในดวงจิต...แต่ก้อไม่






มีเรื่องรอนสะท้อนใจ






ก้อมีไม่...แต่ใยคว้าง....










หรือเราว่างจึ่งนั่งวุ่น






ลองกระตุ้นใจดูพลาง






ไม่นี่นา..เราไม่ว่าง






ก้อยามนั่ง..เรายังคิด










เห็นท่าจะไม่ดี






ค้นใจนี้จนหงุดหงิด






คงจะเป็นเพียงความคิด






พาดวงจิตเป็นพิษไป














0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

2leep.com